ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร - แหล่งเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมไทย
(ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ)
วีดิทัศน์เกี่ยวกับศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
จัดทำโดย นิสิตภาควิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ ดำเนินงานตามพระราชประสงค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโครงการศิลปาชีพ โดยจัดให้มีการฝึกอบรมบรรดาบุตรหลานเกษตรกรของชาวไร่ชาวนาผู้ยากไร้ ให้มีอาชีพเสริมด้วยการผลิตงานศิลปาชีพ อันได้แก่ งานช่างฝีมือด้านศิลปะหัตถกรรมพื้นบ้าน ดังนั้นศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ จึงมีโครงการที่จะอนุรักษ์และพัฒนาทั้งด้านฝีมือและศิลปะหัตถกรรมพื้นบ้านให้ดีขึ้น
นอกจากเป็นแหล่งผลิตแล้ว ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ ยังเป็นแหล่งจำหน่ายและสาธิตงานศิลปาชีพของผู้เข้ารับการฝึกอบรม รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมไทย เป็นที่พักผ่อนห้ความรู้ความบันเทิงและความภาคภูมิใจของชาวไทย ทั้งเป็นที่ประทับใจของชาวต่างชาติ
ศิลปะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาเป็นเวลานาน การสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะนับเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ งานศิลปะหัตถกรรมก็เช่นเดียวกัน บรรพบุรุษได้คิดค้น สร้างสรรค์ ประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ให้เรามีของใช้อำนวยความสะดวกในชีวิต เราเป็นลูกเป็นหลานต้องรู้จักสืบทอดหรือรักษาภูมิปัญญาต่างๆ ให้คงไว้เป็นเอกลักษณ์ของชาติ
การเดินทางไปศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยความตั้งใจแล้วจะเดินทางเพื่อไปถ่ายทำวีดิทัศน์ แต่เมื่อไปถึง ณ ที่แห่งนั้น เรากลับได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง จากทั้งการสัมภาษณ์ สอบถามเจ้าหน้าและนักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการเดินชมศึกษาด้วยตนเอง
คุณลุงสมพงษ์ กิจเชิดชู หัวหน้าสวนนก กล่าวตอนหนึ่ง "วัยรุ่นสมัยนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติกันน้อย วัยรุ่นบางกลุ่มมาเดินชมนกก็ไปรบกวนนก ขว้างก้อนหินบ้าง ส่งเสียงดังบ้าง หรือไม่เฉพาะแต่วัยรุ่น ผู้ใหญ่บางคนก็ยังมี ผมอยากให้คนที่มาชมรู้จักว่าประเทศไทยของเรามีความอุดมสมบูรณ์มากขนาดไหน มีนกนานาชนิดไว้ให้พวกเราได้ศึกษาเรียนรู้กัน แต่เราก็จ้องแต่จะทำลายมัน" คำพูดข้างต้นอาจจะไม่ตรงร้อยเปอร์เซนต์ แต่มันทำให้เราสะท้อนใจและตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้เราฉุกคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญตรงนี้ ก็เลยเป็นจุดหนึ่งที่นำเสนอวีดิทัศน์ที่ทำให้ผู้รับชมได้ครุ่นคิดบ้าง อาจจะไม่ตรงประเด็นซะทีเดียวเพราะเรามีเวลาไปเก็บเกี่ยวกันไม่มาก
และเราก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ เป็นคู่สามีภรรยา ผู้ชายเป็นคุณหมอ ส่วนผู้หญิงเป็นคุณครู เราสอบถามว่ารู้สึกอย่างไรที่มาที่แห่งนี้ และทำไม ทั้งสองคนบอกว่า เขามาเที่ยวประเทศไทยบ่อย และค้นหาข้อมูลศูนย์ศิลปาชีพนี้จากอินเทอร์เน็ต เขาชอบดูโครงการในพระราชดำริเลยมาศึกษาเรียนรู้ และอยากมาดูการทำงานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พวกเขารู้สึกดีใจมากที่ได้มา เพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตงานฝีมือ จากคำพูดของนักท่องเที่ยวทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ของชาติเรา รู้สึกชื่นชมในพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระราชินี รู้สึกว่าโชคดีที่เกิดมาเป็นคนไทย
สุดท้ายคนที่เราสัมภาษณ์คือ คุณป้าสุนันทา วรรณพรม ช่างทอผ้าไหม คุณป้าทำงานที่นี่มาตั้งแต่ครั้งก่อตั้งศูนย์ฯ คุณป้าบอกเราว่า การทำงานที่นี่ทำให้ชีวิตของคุณป้าดีขึ้น มีบ้าน มีชีวิตที่พอเพียง ไม่ต้องดิ้นรน ได้รายได้มาก็เหลือเก็บออม เพราะไม่ต้องใช้จ่ายอะไรฟุ่มเฟือย นี่แหละคนไทยเรา เราควรรู้จักคำว่า "พอเพียง"
หากมีโอกาสอยากจะกลับไปเยือนที่แห่งนี้อีกครั้ง อยากจะพาครอบครัวและคนรู้จักไปเที่ยวพักผ่อนและศึกษาศิลปะหัตถกรรมของไทย อันเป็นเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว
ขอบคุณเพื่อนร่วมทีม เกด รุท เติ้ล และบัดดี้ ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
ขอบคุณคุณลุง คุณป้าและเจ้าหน้าที่ศูนย์ศิลปาชีพทุกท่าน
และขอบคุณที่เกิดมาเป็นคนไทย...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น