ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ความสุขระหว่างการเดินทางและคำตอบ

ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเดินทาง ช่วงนี้เดินทางบ่อยมากๆ เหนื่อยเหมือนกันที่ต้องเดินทาง แต่มันต้องไปถึงจุดมุ่งหมายให้ได้ ไม่ว่าจะพบเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคอะไรก็ตาม เพราะเมื่อไปถึงเราก็จะภูมิใจและได้อะไรมากกว่าที่คิด

การเดินทางทุกครั้งมักเกิดความตื่นเต้นเสมอ ก็เกิดคำถามว่าระหว่างการเดินทางว่าเราจะเจออะไรบ้างนะ จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง จะไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างไร

ในชีวิตคนเราต้องเดินทางกันทุกคนแต่จะมีซักกี่คนที่ไปถึงจุดมุ่งหมายโดยไม่มีอุปสรรคเลย

ชีวิตคนเราต้องเดินผ่านทั้งทุกข์และสุข บางคนก็พกพาความทุกข์และความสุขไปด้วย แต่เราไม่สามารถพกมันติดตัวไปได้ตลอดเวลา ต้องรู้จักปล่อยวางและทำความเข้าใจ มันอาจจะทำให้การเดินทางครั้งนั้นสะดวกขึ้นก็ได้

ระหว่างทางที่เราจะไปให้ถึงจุดมุ่งหมายนั้น เราสามารถหาความสุขระหว่างทางได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้อง เดิน เดิน และเดิน เพราะมันจะทำให้เราเหนื่อยเกินไป ควรจะหยุดรับความสวยงามของสิ่งที่อยู่รอบๆตัวบ้าง การที่เราได้ชมความงามของสิ่งต่างๆมันทำให้เรามีความสุขมากๆเลยละ

หลายคนเอาแต่เดิน เพื่อจะไปให้ถึงจุดมุ่งหมายเร็วๆ การดำเนินชีวิตก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า จึงทำให้เกิดความทุกข์ขึ้น

โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบการเดินทางเอามากๆ การได้ไปที่ใหม่ๆ ทำอะไรใหม่ๆ มันทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ประสบการณ์  แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนๆไม่ว่าจะทำอะไร แรงบันดาลใจก็เกิดขึ้นได้ทุกที่ ไปให้ถึงจุดมุ่งหมายและมีความสุขกับมันนะทุกคน

อ้อ....เล่าจื้อบอกไว้ว่า "การเดินทางไกลหมื่นลี้เริ่มต้นที่ก้าวแรก" ถ้ารู้จักก้าวเพียงแค่ก้าวเดียวระยะทางก็สั้นลงแล้วละ


เคยมีคนบอกว่า "เมื่อเราโตขึ้นเราจะเข้าใจเอง" เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าเราเกิดมาทำไม เราทำทุกสิ่งทุกอย่างไปเพื่ออะไร ไขว่ขว้าไปเพื่ออะไร สุดท้ายแล้วเราจะได้อะไร บ่อยครั้งที่ตั้งคำถามกับตัวเองโดยที่ไม่รู้ว่าคำตอบนั้นคืออะไร หรือกว่าจะได้คำตอบนั้นก็อาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิต
  • จุดมุ่งหมายของชีวิตนั้นอยู่ที่ไหน?
แน่นอนคนเราต่างก็มีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็บอกว่าจุดมุ่งหมายในชีวิตก็คือการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ครอบครัว ฯลฯ พอถึงจุดมุ่งหมายจะเป็นยังไงต่อนะ ช่วงนี้สับสนในชีวิตเอามากๆ ว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการอะไร เป็นเด็กที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ อยากเห็น มีคำถามหลายๆคำถามเกิดขึ้นแล้วก็ชอบถามหลายๆคน แต่คำตอบที่ได้กลับไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ หรือว่าจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ยิ่งคิดยิ่งไม่รู้ เฮ้อ...
  •   เมื่อเจอปัญหาหรืออุปสรรคในชีวิตเราจะทำอย่างไรดีนะ?
การแก้ปัญหามักมีทางเลือกเสมอ และทางเลือกของคนเราก็มีมากกว่า 2 ทาง แต่มันยากที่การตัดสินใจกว่าจะตัดสินใจได้ต้องใช้ทั้งเหตุและผล หรืออาจใช้เพียงความรู้สึก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Questions & Answers

"ทำไม" คำนี้ได้ยินอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะมาจากที่อื่นหรือแม้กระทั่งเสียงความคิดของตัวเอง  วันนี้มีคนมาบอกว่าฉันเป็นคนอย่างนั้น ฉันเป็นคนอย่างนี้ ฉันก็คิดว่า ทำไมเค้าถึงคิดแบบนั้น เค้าถึงคิดแบบนี้ หรือนี่อาจจะเป็นลักษณะของมนุษย์ผู้ช่างสงสัย เพราะสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในโลกนี้คือความช่างคิด ช่างสงสัยนี่เอง  สมมติว่า เราสงสัยอะไรบางอย่าง หรือเกิดคำถามหนึ่งขึ้นมาในใจ เราก็เกิดกระบวนการคิดแล้วว่าจะหาคำตอบได้อย่างไร ซึ่งวิธีการหาคำตอบของบุคคลนั้นก็หลากหลายแตกต่างกันไป ตามลักษณะของบุคคล บางคนก็ใช้วิธีการค้นหา สืบค้น ค้นคว้า สอบถาม หรือบางคนใช้การพินิจ พิเคราะห์เอาเอง ประหนึ่งว่ามีคำตอบอยู่ภายในจิตใจแล้ว ถามเอง ตอบเองประมาณนั้น  เคยเป็นไหมเวลาที่เราถามใครๆ แล้วเค้าให้คำตอบเรามา เรามักจะคิดว่า มันใช่ มันดี และเห็นด้วยกับสิ่งที่คนอื่นคิด อนึ่ง..คำถามที่เราถามใครๆไปข้างต้น เราอาจจะไม่มีคำตอบอยู่ภายในจิตใจ แต่แค่อยากจะรู้ว่าคนอื่นเค้าคิดกันยังไง คำตอบที่ได้มันก็เลยใช่  และเคยเป็นไหมเวลาที่เราถามใครๆไป คำตอบที่ได้มันกลับไม่ใช่ และเราก็ไม่เห็นด้วย ...

@Curve Mood!!!

Design by imoofern photo  คำเตือน!!! < บทความนี้แฝงไปด้วยอารมณ์ โปรดใช้วิจารณญาณส่วนบุคคล > อันนี้จำโจทย์โดยรวมไม่ได้นะว่าอาจารย์ให้เขียนความรู้สึก หรือสิ่งที่ได้รับ หรืออะไรบางอย่างเกี่ยวกับการทำนิตยสารนี่แหละ เอาเป็นว่าจะเล่าตั้งแต่นานนมนู้นนนน ย้อนไปเมื่อประมาณ 3-4 เดือนก่อน มีการจับกลุ่มทำงาน วิธีการจับกลุ่มทำงานใช้วิธีจับสลาก โดยแบ่งเฮดหลักออกมาก่อนทั้งหมดเก้ากลุ่ม เห็นด้วยกับการจับกลุ่มแบบนี้ มันแฟร์มากๆ งานที่ต้องทำก็มีพรีเซนต์(โปรเจกต์รอง) มีทำนิตยสาร(โปรเจกต์หลัก) ซึ่งงานทั้งหมดต้องใช้กระบวนการทำงานกลุ่ม หรือทีมเวิร์คนั่นเอง มันไม่สำคัญเลยว่ากลุ่มไหนมีคนเก่งมากๆ กลุ่มนั้นจะดี แต่สำคัญตรงที่ความเชื่อใจกันและกันมากกว่า เราจะไม่เรียกว่ากลุ่ม แต่เราคือทีม ทีมยีราฟ อันนี้ลิตเติ้ลซีเค (เจ๊ขวัญ) เป็นคนตั้ง การทำงานเป็นทีมสอนอะไรเราหลายอย่าง แต่นึกตอนนี้ก็นึกไม่ออก เดี๋ยวค่อยๆ เล่าไปแล้วกัน ความรู้สึกแรกๆ คือ ประทับใจในการเอาใจใส่งานของทุกคน ตั้งแต่งานแรก เพื่อนๆก็จะถามกัน คุยกันว่าทำอะไรดี ใครทำหน้าที่อะไรบ้าง หมูเฟิร์นมักจะเป็นคนที่คอยถามเสมอว่า เฮ้ย......
ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเหรอ? ไปนอนได้แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย! ทำไมชอบนอนดึกจัง? และอีกหลายๆคำถามเมื่อทุกคนพบฉันยังออนไลน์เมื่อตี 3 ตี 4 และตี 5 แต่พอถึง 6 โมงเช้า หลายคนก็จะบอกว่า ตื่นเช้าจัง...ฮ่าๆๆ มีหลายคนสงสัยนะว่าฉันทำอะไร ไม่หลับไม่นอนซักที เวลาที่ฉันอยู่บ้านนอกฉันก็นอนเวลาปกตินะ อาจจะนอนเร็วกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ แต่พอมาอยู่กรุงเทพฯ ฉันกลับชอบเวลาดึกแบบนี้ มันเงียบสงัด มันไร้ซึ่งเสียงรบกวน มันเป็นเวลาที่ความคิดฉันกระฉูด อ๊าาาา ฮ่าๆๆๆ ช่วงเวลากลางวันคุณก็รู้ดีว่ากรุงเทพฯ มันน่ารำคาญขนาดไหน เสียงผู้คนและวัตถุนิยมรบกวนการคิดของฉัน โดยเฉพาะเสียงจากวัตถุนิยมมันส่งเสียงดังจนกลบเสียงธรรมชาติไปซะหมด คุณจะเชื่อไหมว่าเวลาตี 3-4 โดยประมาณ ฉันมักจะได้ยินเสียงกบ เสียงจิ้งหรีด เสียงกระรอกหรือแม้กระทั่งเสียงลมพัด ทั้งๆที่อยู่กรุงเทพฯ หรือเพราะที่ฉันอยู่ยังพอมีต้นไม้และพื้นดินอยู่บ้าง จะว่าไปกรุงเทพก็เริ่มหาพื้นดินและต้นไม้ยากขึ้นทุกวัน มีแต่คอนโดติดแอร์ แต่ถ้าวันรุ่งขึ้นมีเรียนเช้าละก็ มีเสียวแน่ เพราะต้องลุ้นว่าจะไปเรียนทันอาจารย์เข้ารึเปล่า ฮ่าๆๆ เมื่อก่อนฉันตื่นเช้าไปเรียนทันเวลาต...