ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ไปเลย

ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาข้าพเจ้ามีโอกาสได้กลับไปบ้านเกิดที่ จ.เลย มันเป็นที่ที่ข้าพเจ้าจากมานานหลายปีเพื่อทำตามความฝันอืม.. หรือจะเรียกว่าหน้าที่ดีนะ เลยเป็นที่ที่น่าอยู่มากๆ อากาศดี มีหมอกลงตอนเช้าๆ เพราะสภาพภูมิประเทศล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีจริงๆนะ ถ้าใครไป จ.เลย ต้องลองหมุนดูรอบตัวมองไปทางไหนก็เจอแต่ภูเขา ตอนนี้ใครๆก็พูดถึงแต่เชียงคาน บางคนบอกว่า "ถ้าไม่มีนาธานเชียงคานไม่ดัง" แต่ข้าพเจ้าคิดว่าเชียงคานมีอะไรมากกว่านั้น ความสงบ ความเป็นกันเอง น้ำใจของชาวเชียงคาน ใครที่เคยไปต้องกลับไปอีกแน่นอน แต่น่าเสียดายที่กลับไป จ.เลย ครั้งนี้ไม่มีโอกาสได้ไปเชียงคานไม่รู้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง  ต้องนั่งทำงานอยู่บ้าน ฮือๆๆๆ แต่อยู่กับตา ยาย และน้องก็มีความสุขมากมายเลยละ รักเมืองเลย...

ความคิดเห็น

  1. อยากไปบ้างงง ลำปางไม่มีแบบนี้เลยอยู่เหนือซะป่าวต้องไปต่างจังหวัด

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Questions & Answers

"ทำไม" คำนี้ได้ยินอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะมาจากที่อื่นหรือแม้กระทั่งเสียงความคิดของตัวเอง  วันนี้มีคนมาบอกว่าฉันเป็นคนอย่างนั้น ฉันเป็นคนอย่างนี้ ฉันก็คิดว่า ทำไมเค้าถึงคิดแบบนั้น เค้าถึงคิดแบบนี้ หรือนี่อาจจะเป็นลักษณะของมนุษย์ผู้ช่างสงสัย เพราะสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในโลกนี้คือความช่างคิด ช่างสงสัยนี่เอง  สมมติว่า เราสงสัยอะไรบางอย่าง หรือเกิดคำถามหนึ่งขึ้นมาในใจ เราก็เกิดกระบวนการคิดแล้วว่าจะหาคำตอบได้อย่างไร ซึ่งวิธีการหาคำตอบของบุคคลนั้นก็หลากหลายแตกต่างกันไป ตามลักษณะของบุคคล บางคนก็ใช้วิธีการค้นหา สืบค้น ค้นคว้า สอบถาม หรือบางคนใช้การพินิจ พิเคราะห์เอาเอง ประหนึ่งว่ามีคำตอบอยู่ภายในจิตใจแล้ว ถามเอง ตอบเองประมาณนั้น  เคยเป็นไหมเวลาที่เราถามใครๆ แล้วเค้าให้คำตอบเรามา เรามักจะคิดว่า มันใช่ มันดี และเห็นด้วยกับสิ่งที่คนอื่นคิด อนึ่ง..คำถามที่เราถามใครๆไปข้างต้น เราอาจจะไม่มีคำตอบอยู่ภายในจิตใจ แต่แค่อยากจะรู้ว่าคนอื่นเค้าคิดกันยังไง คำตอบที่ได้มันก็เลยใช่  และเคยเป็นไหมเวลาที่เราถามใครๆไป คำตอบที่ได้มันกลับไม่ใช่ และเราก็ไม่เห็นด้วย ...

@Curve Mood!!!

Design by imoofern photo  คำเตือน!!! < บทความนี้แฝงไปด้วยอารมณ์ โปรดใช้วิจารณญาณส่วนบุคคล > อันนี้จำโจทย์โดยรวมไม่ได้นะว่าอาจารย์ให้เขียนความรู้สึก หรือสิ่งที่ได้รับ หรืออะไรบางอย่างเกี่ยวกับการทำนิตยสารนี่แหละ เอาเป็นว่าจะเล่าตั้งแต่นานนมนู้นนนน ย้อนไปเมื่อประมาณ 3-4 เดือนก่อน มีการจับกลุ่มทำงาน วิธีการจับกลุ่มทำงานใช้วิธีจับสลาก โดยแบ่งเฮดหลักออกมาก่อนทั้งหมดเก้ากลุ่ม เห็นด้วยกับการจับกลุ่มแบบนี้ มันแฟร์มากๆ งานที่ต้องทำก็มีพรีเซนต์(โปรเจกต์รอง) มีทำนิตยสาร(โปรเจกต์หลัก) ซึ่งงานทั้งหมดต้องใช้กระบวนการทำงานกลุ่ม หรือทีมเวิร์คนั่นเอง มันไม่สำคัญเลยว่ากลุ่มไหนมีคนเก่งมากๆ กลุ่มนั้นจะดี แต่สำคัญตรงที่ความเชื่อใจกันและกันมากกว่า เราจะไม่เรียกว่ากลุ่ม แต่เราคือทีม ทีมยีราฟ อันนี้ลิตเติ้ลซีเค (เจ๊ขวัญ) เป็นคนตั้ง การทำงานเป็นทีมสอนอะไรเราหลายอย่าง แต่นึกตอนนี้ก็นึกไม่ออก เดี๋ยวค่อยๆ เล่าไปแล้วกัน ความรู้สึกแรกๆ คือ ประทับใจในการเอาใจใส่งานของทุกคน ตั้งแต่งานแรก เพื่อนๆก็จะถามกัน คุยกันว่าทำอะไรดี ใครทำหน้าที่อะไรบ้าง หมูเฟิร์นมักจะเป็นคนที่คอยถามเสมอว่า เฮ้ย......
ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเหรอ? ไปนอนได้แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย! ทำไมชอบนอนดึกจัง? และอีกหลายๆคำถามเมื่อทุกคนพบฉันยังออนไลน์เมื่อตี 3 ตี 4 และตี 5 แต่พอถึง 6 โมงเช้า หลายคนก็จะบอกว่า ตื่นเช้าจัง...ฮ่าๆๆ มีหลายคนสงสัยนะว่าฉันทำอะไร ไม่หลับไม่นอนซักที เวลาที่ฉันอยู่บ้านนอกฉันก็นอนเวลาปกตินะ อาจจะนอนเร็วกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ แต่พอมาอยู่กรุงเทพฯ ฉันกลับชอบเวลาดึกแบบนี้ มันเงียบสงัด มันไร้ซึ่งเสียงรบกวน มันเป็นเวลาที่ความคิดฉันกระฉูด อ๊าาาา ฮ่าๆๆๆ ช่วงเวลากลางวันคุณก็รู้ดีว่ากรุงเทพฯ มันน่ารำคาญขนาดไหน เสียงผู้คนและวัตถุนิยมรบกวนการคิดของฉัน โดยเฉพาะเสียงจากวัตถุนิยมมันส่งเสียงดังจนกลบเสียงธรรมชาติไปซะหมด คุณจะเชื่อไหมว่าเวลาตี 3-4 โดยประมาณ ฉันมักจะได้ยินเสียงกบ เสียงจิ้งหรีด เสียงกระรอกหรือแม้กระทั่งเสียงลมพัด ทั้งๆที่อยู่กรุงเทพฯ หรือเพราะที่ฉันอยู่ยังพอมีต้นไม้และพื้นดินอยู่บ้าง จะว่าไปกรุงเทพก็เริ่มหาพื้นดินและต้นไม้ยากขึ้นทุกวัน มีแต่คอนโดติดแอร์ แต่ถ้าวันรุ่งขึ้นมีเรียนเช้าละก็ มีเสียวแน่ เพราะต้องลุ้นว่าจะไปเรียนทันอาจารย์เข้ารึเปล่า ฮ่าๆๆ เมื่อก่อนฉันตื่นเช้าไปเรียนทันเวลาต...