เฮ้อ..... ปิดเทอมแล้วก็รู้สึกเหงาๆ อยากเจอเพื่อนๆ ยิ่งเจอสภาพอากาศที่หน้าร้อนอากาศหนาวกว่าหน้าหนาวแล้วละก้อ ยิ่งเหงาเข้าไปใหญ่ ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองไร้สาระเอามากๆเลยละ ติดทีวีเอามากๆเหมือนเก็บกดเพราะช่วงเปิดเทอมไม่เคยได้ดูทีวีเลย อืม!! ตอนนี้ติดตามรายการเดอะสตาร์ปีที่ 7 ชอบ นท พนายางกูร มากกกกกกกกก เป็นบุคคลในอุดมคติเลยไม่คิดว่าบุคคลลักษณะแบบนี้จะมีอยู่จริงๆ เห็นที่ไรยิ้มได้ทุกที
และอีกเรื่องที่สำคัญคือเกรดออกแล้ววว เย้ๆๆๆ จะได้เท่าไรก็เย้ไว้ก่อนละ มันน่าลุ้นดี เหมือนการรอคอยอะไรบางอย่างไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นแบบไหนก็พอใจแล้ว
ข้าพเจ้าอยากจะเล่าเรื่องความหลังซะหน่อยเกี่ยวกับชีวิตและการเรียน ตอนประถมนะข้าพเจ้าเรียนเก่งมากๆๆที่ 1 ตลอดเลย(ที่1 ของสายชั้นเลยทีเดียว) แต่ชีวิตมันก็มีการพลิกผันแหละ ตอนป.4 แม่ของข้าพเจ้าเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง (ถ้าแม่ไม่เสียข้าพเจ้าอาจจะกลายเป็นหมอไปแล้วเพราะตอนเด็กๆถูกปลูกฝังมาแบบนั้น) 3 เดือนถัดมาพ่อของข้าพเจ้าก็แต่งงานใหม่ และก็ย้ายกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดของพ่อ ข้าพเจ้าและน้องก็ต้องตามไปด้วยละ การเรียนยังดีนะมีสะดุดตอนย้ายนิดหน่อยแต่ยังประคองไปได้ และพ่อก็แต่งงานใหม่อีกครั้ง คราวนี้ข้าพเริ่มกลายเป็นเด็กมีปัญหาเพราะกำลังเครียดเรื่องเรียนต่อ ม.1 พ่อข้าพเจ้าไม่เคยสนใจข้าพเจ้าเลยเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ไปสอบก็ต้องติดรถคนอื่นไป ข้าพเจ้าทะเลาะกับพ่อทุกวัน และเคยไม่คุยกันนานเป็นเวลาเกือบ 5 เดือน จนตาและยายต้องมารับข้าพเจ้าและน้องกลับไปอยู่ด้วยที่จ.เลย (บ้านเกิดของข้าพเจ้าและที่ที่ข้าพเจ้ารักมากที่สุด) ข้าพเจ้าตัดสินใจโดยไม่ลังเลเลย พอย้ายกลับมาเรียนที่จ.เลย การเรียนก็ยังคงอยู่ในระดับกลางๆนะ ตอนนั้นข้าพเจ้าเล่นดนตรีไปด้วยอยู่วงโยธวาทิต ต้องซ้อมทุกเช้า-เย็น 7.00-9.00 (ไม่ต้องเข้าแถวได้อภิสิทธ์55+) และเย็นถึง 18.00 น. ทุกวันเลย ข้าพเจ้าชอบมากข้าพเจ้าค้นพบตัวเองว่าชอบเล่นดนตรีเอามากๆ ต้องเล่นทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้เล่นมันจะอึดอัดแปลกๆ พอถึงม.3 มีเรื่องอีกแล้วคือ ตากับยาย ส่งเรียนไม่ไหวเลยต้องส่งข้าพเจ้ามาอยู่กับน้าที่จ.อุทัยธานี เพื่ออนาคตที่ดี ส่วนน้องของข้าพเจ้า(อายุห่างกัน 5 ปี)ก็ยังคงอยู่กับตา ยาย พอย้ายมาเอาละจากเดิมที่เคยได้เกรด 3.xx ก็ได้ 2.xx ซึ่งก่อนย้ายมาทุกคนคาดหวังกันไว้ว่าจะต้องเรียนดีมีอนาคตแน่นอน แต่เพราะความขี้เกียจนั่นเอง ไม่เคยอ่านหนังสือเลย ติดทีวี ติดเกมส์ ติดดนตรี ชีวิตม.ปลาย ตลอด 3 ปีนั้นก็เลยลุ่มๆดอนๆ ช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี่ก็ไม่ได้คาดหวังเพราะถ้าไม่ติดก็คงเรียนแถวๆบ้าน เพราะคิดว่าอยู่ที่ไหนๆก็ดีได้เหมือนกัน แต่ก็ติด มศว ที่เดียวเลยจริงๆ ต้องใช้ชีวิตเด็กหอ ไม่มีทีวีดู มีเกมคอมเล่นแต่เกิดความเบื่อเพราะเล่นมาตลอด 3 ปี ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยเข้าห้องสมุด โอ้วพระเจ้า^0^ การอ่านหนังสือมันสนุกสุดยอดเลย ว่างๆเสาร์-อาทิตย์ คนอื่นๆเค้าก็จะกลับบ้านกัน ข้าพเจ้าบ้านไกลจะได้กลับก็ปิดเทอมครั้งเดียว ว่างเมื่อไหร่เข้าหอสมุดทันที อ่านทั้งเรื่องเรียนและเรื่องอื่นๆ พอผลการเรียนเทอมแรกออกมาถึงกับตกใจ ว่าหา!!! ไม่น่าเชื่อผลการเรียนดีมากๆๆ ข้าพเจ้ามั่นใจเลยว่าการอ่านมันสร้างปัญญาได้จริงๆ และความรับผิดชอบด้วยการได้ใช้ชีวิตเด็กหอมันสอนข้าพเจ้าหลายๆอย่าง รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น คิดถึงอนาคตมากขึ้น ฯลฯ เป็นประสบการณ์ที่ดี มีอีกมากมายที่ได้รับคงพูดไม่หมด ต้องลองสัมผัสด้วยตัวเอง
ความฝันในอนาคตข้าพเจ้าอยากจะเป็นศิลปิน ตอนอยู่หอข้าพเจ้าไม่ได้เล่นดนตรีเลย แต่พอได้กลับมาเล่นอีกครั้งมันสุดยอดดดด ข้าพเจ้าเล่นอย่างบ้าคลั่งเล่นช่วงก่อนสอบเทอม 2 เอาอีกแล้ว บ่นกับตัวเอง เล่นแต่ดนตรีไม่อ่านหนังสือสอบเลย เล่นแบบไม่ทำอะไรเลยเล่นดนตรีอย่างเดียวทั้งวัน แหม..เหมือนว่าเวลาข้าพเจ้าทำอะไรแล้วทำอย่างเอาเป็นเอาตายให้มันสุดๆจนกว่าจะพอใจเลย มันจะอยู่อย่างนั้นไม่ทำอย่างอื่นเลยจริงๆ แต่ก็ยังเอาตัวรอดมาได้นะ555+ ผลการเรียนเป็นที่น่าพอใจ แต่ถ้าถามว่าคาดหวังไหมก็ไม่ได้คาดหวังเลยเพราะตอนนั้นคิดแต่จะเป็นศิลปินอย่างเดียว อยากออกเดินทางไปเรื่อยๆ เคยคิดอยากจะออกบวชตัดสิ้นทุกสิ่งอย่าง
ข้าพเจ้าคิดว่าเมื่อส่งน้องเรียนจบ และทำให้ตา ยาย ภาคภูมิใจแล้ว ข้าพเจ้าจะบวชชีหรือไม่ก็เดินทางรอบโลก เล่นดนตรีให้ทุกคนฟัง นั่นแหละความฝันของข้าพเจ้า
ชีวิตของข้าพเจ้าน่าตื่นเต้นเอามากๆเลย เจอหมดทุดสิ่งจุดที่ต่ำที่สุดและสูงสุดในชีวิตที่ผ่านมา เคยมีความสุขมากเมื่อตอนที่ยังมีแม่อยู่ ครอบครัวสมบูรณ์ที่สุด อยากได้อะไรก็ได้ เคยอดข้าวเพราะไม่มีตังค์ เคยเป็นเด็กมีปัญหา ข้าพเจ้าว่าเขียนหนังสือ 200 หน้าได้สบายๆเลย
นี่แหละชีวิตคนเรา ไม่มีอะไรแน่นอนเลย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จากการที่แม่ของข้าพเจ้าเสียข้าพเจ้าก็ปลงเลย ข้าพเจ้าใส่ใจกับการกระทำมากกว่าผลของการกระทำนะ เพราะผลที่เกิดขึ้นมันไม่มีอะไรแน่นอน(วิชาแมนโซ คณะสังคมศาสตร์ สุ่มเกรด!!!)(ตั้งใจเรียน ส่งงานทุกครั้ง เข้าเรียนทุกคาบ ไม่เข้าใจว่าเอาอะไรมาตัดสินอยากจะดูคะแนนจริงๆ หึหึ) แต่สิ่งที่แน่นอนคือตัวเรา ความคิดและการกระทำของเราเอง อนาคตโลกจะแตกหรืออะไรก็ตามแต่อยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุขก็พอใจแล้วละ ลั้นลาไปเล่นดนตรีอันเป็นที่รักดีกว่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น