ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2013

Questions & Answers

"ทำไม" คำนี้ได้ยินอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะมาจากที่อื่นหรือแม้กระทั่งเสียงความคิดของตัวเอง  วันนี้มีคนมาบอกว่าฉันเป็นคนอย่างนั้น ฉันเป็นคนอย่างนี้ ฉันก็คิดว่า ทำไมเค้าถึงคิดแบบนั้น เค้าถึงคิดแบบนี้ หรือนี่อาจจะเป็นลักษณะของมนุษย์ผู้ช่างสงสัย เพราะสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในโลกนี้คือความช่างคิด ช่างสงสัยนี่เอง  สมมติว่า เราสงสัยอะไรบางอย่าง หรือเกิดคำถามหนึ่งขึ้นมาในใจ เราก็เกิดกระบวนการคิดแล้วว่าจะหาคำตอบได้อย่างไร ซึ่งวิธีการหาคำตอบของบุคคลนั้นก็หลากหลายแตกต่างกันไป ตามลักษณะของบุคคล บางคนก็ใช้วิธีการค้นหา สืบค้น ค้นคว้า สอบถาม หรือบางคนใช้การพินิจ พิเคราะห์เอาเอง ประหนึ่งว่ามีคำตอบอยู่ภายในจิตใจแล้ว ถามเอง ตอบเองประมาณนั้น  เคยเป็นไหมเวลาที่เราถามใครๆ แล้วเค้าให้คำตอบเรามา เรามักจะคิดว่า มันใช่ มันดี และเห็นด้วยกับสิ่งที่คนอื่นคิด อนึ่ง..คำถามที่เราถามใครๆไปข้างต้น เราอาจจะไม่มีคำตอบอยู่ภายในจิตใจ แต่แค่อยากจะรู้ว่าคนอื่นเค้าคิดกันยังไง คำตอบที่ได้มันก็เลยใช่  และเคยเป็นไหมเวลาที่เราถามใครๆไป คำตอบที่ได้มันกลับไม่ใช่ และเราก็ไม่เห็นด้วย ...

essay @ curve issue01

วันดีคืนดีเราเจอแหล่งในการเผยแพร่ผลงานที่ใหม่ ก็ฝากแนะนำสำหรับผู้ที่ติดตามบล๊อกนี้อยู่  เพราะเมื่อก่อนเคยเผยแพร่ผลงานทางเฟสบุ๊คแล้วรู้สึกว่าสื่อนี้ไปเร็วเหลือเกิน เกินจนตามไม่ทัน  ก็ทดลองหาที่เผยแพร่ผลงานที่ใหม่ เจอ Tumblr.com รู้สึกว่ามันใช้การได้ดีทีเดียว  ก็ยังไงลองติดตามกันดู  ผลงานชุดแรกที่โพสไปต้องขอขอบคุณพี่อาร์มมากๆ ที่กรุณามาเป็นนายแบบให้ ตัวนี้เป็นกล้องแคนดิด ซึ่งกล้องหลักอยู่ที่ Imoofern photo (รับถ่ายภาพทุกชนิด ค้นหาเพจได้ที่ facebook) งานที่ไปถ่ายและนำมาให้ดูนี้เพื่อประกอบนิตยสารเล่มแรกชื่อว่า @curve  หมายเหตุ ภาพที่ดูอยู่นี้ไม่สามารถเผยแพร่ในนิตยสารได้ @curve จะเป็นนิตยสารเกี่ยวกับวัยรุ่น วัยทดลอง วัยที่ค้นหาคำตอบ ก็คงคล้ายๆกับนิตยสารวัยรุ่นทั่วไป มีเกี่ยวกับปรัชญาชีวิต แนวความคิด คอลัมน์สัมภาษณ์บุคคล ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ฯลฯ แต่จุดสำคัญหรือสิ่งที่เราพยายามจะสื่อให้มีความแตกต่างก็คงเกี่ยวกับการคิดนอกกรอบ  "คิดนอกกรอบ" มันคืออะไร คนที่มีความคิดนอกกรอบมันเป็นยังไง ชีวิตนอกกรอบมันแตกต่างจากชีวิตปกติยังไง อันนี้เป็น...

ตัณหา

เกิดมาหนึ่งชีวิตได้เรียนรู้อะไรมากมาย เมื่อเวลาล่วงไปหลายสิ่งถูกสั่งสม โตขึ้นเรื่อยๆ มีเรื่องให้คิดขึ้นเรื่อยๆ คนเราโตมาจะมีนิสัยอย่างไร ล้วนมาจากสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูเมื่อตอนเด็ก มันก็จริงอย่างว่า คนที่ได้รับความอบอุ่น ความเอาใจใส่จะมีลักษณะนิสัยแบบหนึ่ง คนที่ขาดความอบอุ่นก็จะมีลักษณะนิสัยอีกแบบหนึ่ง ครั้นจะให้ไปเล่าเรื่องของคนอื่นก็คงไม่ถนัดนัก สิ่งที่จะเล่าได้ดีที่สุด เป็นธรรมชาติที่สุด คงไม่พ้นเรื่องตัวเอง ตั้งแต่เกิดจนถึงเก้าขวบรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นเด็กที่พร้อม พร้อมด้วยความรัก ความอบอุ่น หรือสิ่งของรอบกาย แต่หลังจากแม่เสียไปไม่นาน ชีวิตของทุกคนในครอบครัวก็เปลี่ยนแปลงไปอีกแบบ เหมือนจะมีแต่ความทุกข์ เกิดปัญหาอยู่บ่อยครั้ง สำหรับตัวเองแล้ว ในวัยที่กำลังจะขึ้นมัธยมต้น มีความรู้สึกว่าตัวเองใจร้อน ไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกคนรอบข้าง ประมาณเด็กมีปัญหาประมาณนั้น มีปัญหาทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่ไม่น่าเป็นปัญหายังทำให้เป็น แต่ก็ใช้ชีวิตมาเรื่อยจนขึ้นมัธยมปลาย ชีวิตก็เปลี่ยนไปอีก กลายเป็นคนเงียบขรึม ประมาณเด็กเก็บกด เวลามีปัญหาไม่มีใครรู้เลยซักคน วิธีหาทางออกนั้นหรือ คือ เล่นเกมส์ ตอนนี...

เรื่องมันนานมาแล้ว

ก็...มีการบ้าน มีงาน อาจารย์สั่ง ประมาณนั้น แต่ก็เลยกำหนดมาหลายเดือนแล้ว ด้วยหลากหลายเหตุผลแล้วแต่ผู้คนจะตีความ เหตุหนึ่งที่ไม่เขียน ณ ตอนนั้นคือไม่อยากเขียน เขียนไม่ออก แต่ ณ ตอนนี้อยากเขียน อยากเล่า อยากแชร์ ... "อิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์" และเช้าวันหนึ่งเดินทางไปมหาวิทยาลัย ต้องเดินทางโดยรถไฟฟ้า bts มีคนยืนแจกหนังสือพิมพ์ฟรีอยู่ ก็เลยรับมาและอ่าน อ่าน อ่าน เมื่อก่อนยังจำได้ สมัยที่หนังสือพิมพ์นี้แจกฟรีช่วงแรกๆ เฮ้ยหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เจ๋งมาก ให้ความรู้กับประชาชน ไม่เสียตังค์อีกต่างหาก นับถือผู้ผลิตเลย ใจดีชะมัดเลย แต่ทุกวันนี้หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นแทบจะมีแต่โฆษณา บางทีมาแจกฟรียังไม่อยากจะรับ โฆษณามาทีงี้ เต็มหน้ากันเลยทีเดียว ที่กล่าวไปข้างต้นนั่นมันเป็นอิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์กับการโฆษณาประชาสัมพันธ์นะ แน่นอนว่าสื่อสิ่งพิมพ์ไหนที่มีผู้บริโภคเยอะสื่อสิ่งพิมพ์นั้นก็จะเป็นที่หมายตาสำหรับองค์กร ธุรกิจต่างๆ สงสัยเพื่อความอยู่รอดด้วยมั้ง เพราะดูสมัยนี้แล้วผู้คนไม่ค่อยซื้อหนังสืออ่านกันเท่าไหร่ อ่านฟรีตามร้านบ้าง อ่านตามร้านกาแฟบ้าง อ่านบนโลกออนไลน์บ้าง ตัวเราเองก็เป็นเมื่อก่อนเ...

ใจเขา..ใจเรา

ภาพนี้เขื่อนอาจจะสูงแค่ 90 ซม. แต่ความเป็นจริงเป็นอย่างไรมิอาจทราบได้ ต่างที่ ต่างสถานะ ต่างมุมมอง  เรามีชีวิตอยู่ในสังคม เราชอบอะไร เราไม่ชอบอะไร บางครั้งเราแสดงออกมาโดยตรง บางครั้งก็เก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้ เมื่อมีใครทำให้เราไม่พอใจ เราไม่จำเป็นต้องไปตักเตือนหรือว่ากล่าวใคร เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งๆในตัวคนอื่น เพราะยังไงตัวตนของเขาก็ยังเป็นตัวตนของเขาอยู่วันยังค่ำ แต่ถ้าสมมติว่าวันหนึ่งเหตุการณ์ซ้ำร้ายเกิดขึ้นกับตัวของเขาบ้าง เขาจะรู้สึกสำนึกในทุกคำพูดและทุกการกระทำของตัวเอง จนเกิดความรู้สึกเสียใจ และพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง  เหตุการณ์หลายๆ อย่างในรอบสัปดาห์นี้สอนให้ฉันรู้ว่า การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต้องระมัดระวังทุกคำพูด ทุกการกระทำ ต้องทบทวนและรู้จักตักเตือนตนเองอยู่ตลอดเวลา ไม่เทียวจับผิดผู้อื่น เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง จนวันหนึ่งต้องมาเจอกับตัวเอง ก็เลยได้ข้อคิด ได้แนวทางหลายๆอย่าง เช่น  1. การที่เรารับรู้ข้อมูลข่าวสาร สภาวะความเป็นอยู่ของผู้อื่นมาจนเกินไป (เสือกในโลกออนไลน์) ทำให้เราลืมที่จะใส่ใจความรู้สึกแ...